สีทาบ้านทิ้งอย่างไรให้ถูกวิธี

สีทาบ้านทิ้งอย่างไรให้ถูกวิธี

เมื่อเวลาผ่านไปบ้านที่เราอยู่อาศัยย่อมมีจุดที่ชำรุดหรือสีซีดจางไปตามกาลเวลา ทำให้ต้องมีการซ่อมแซมหรือต่อเติมให้เหมาะสม และแน่นอนว่าการทาสีเป็นขั้นตอนที่แทบจะขาดไม่ได้เลยในการปรับปรุงบ้านให้กลับมาสวยดังเดิม แต่บ่อยครั้งที่หลังจากเสร็จสิ้นการทำงาน มักมีสีเหลือใช้อยู่ในกระป๋องหรือถังสีจำนวนหนึ่ง ซึ่งหากถูกกำจัดอย่างไม่เหมาะสม อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพได้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย เราต้องจัดการให้เป็นไปตามวิธีการที่ปลอดภัยและถูกต้อง

สีที่เหลือจะเอาไปทำอะไร?

• ประเมินสภาพสี หากสียังใช้งานได้ ควรปิดฝาให้แน่นและเก็บในที่แห้งเพื่อใช้ในอนาคต หรือสามารถบริจาคให้กับองค์กรที่ต้องการ เช่น โรงเรียน วัด หรือกลุ่มอาสาสมัครที่รับปรับปรุงสถานที่
• หากเหลือสีเพียงเล็กน้อยที่ก้นกระป๋องซึ่งไม่เพียงพอต่อการทาสีใหม่ ควรแยกวิธีการจัดการ ดังนี้

สีชนิดน้ำ : เปิดฝากระป๋องทิ้งไว้เพื่อปล่อยให้สีแห้งสนิท หรือเทสีลงบนวัสดุที่ดูดซับน้ำ เช่น ทรายหรือหนังสือพิมพ์ เมื่อสีแห้งแล้ว สามารถนำไปทิ้งถังขยะทั่วไปได้ ส่วนภาชนะสามารถรีไซเคิลได้ตามคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์

สีชนิดน้ำมัน : ส่งไปยังจุดรับขยะอันตราย เนื่องจากสีชนิดนี้มีสารเคมีที่อาจเป็นพิษ

นอกเหนือจากสีทาบ้านแล้ว มีอะไรที่ต้องจัดการให้ถูกต้องบ้าง?

• ทินเนอร์ ไม่ควรเทลงในท่อน้ำหรือพื้นดินโดยตรง เพราะอาจทำให้เกิดการปนเปื้อนในแหล่งน้ำและดินได้ การจัดการทินเนอร์ที่เหลือใช้ ทำได้โดยการส่งไปยังจุดรับขยะอันตรายหรือศูนย์จัดการสารเคมี
• อุปกรณ์ทาสี อุปกรณ์ทาสีที่แห้งสนิท เช่น แปรงทาสี ลูกกลิ้งทาสี หรือถาดสี สามารถทิ้งรวมกับขยะทั่วไป แต่หากยังไม่แห้งควรใส่ถุงแยกทิ้งเป็นขยะอันตราย กรณียังต้องการใช้งานต่อ ให้นำสีออกจากอุปกรณ์ให้มากที่สุด ล้างหรือแช่ด้วยตัวทำละลายตามประเภทของสี เก็บแปรงหรือลูกกลิ้งไว้ในถุงพลาสติกที่ปิดสนิท